การพัฒนาอย่างยั่งยืนมีความสำคัญต่ออนาคตของธุรกิจของไทยยูเนี่ยนและการเติบโตของบริษัท เพราะความยั่งยืนนับเป็นรากฐานของการเป็นองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และเป็นแนวทางที่จะทำให้เราบรรลุวิสัยทัศน์ของการเป็นผู้นำด้านอาหารทะเลที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในโลก
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลก บริษัทมีความรับผิดชอบในการสร้างมาตรฐานให้กับการดำเนินงานด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจในทุกการดำเนินงานทั้งหมดของเราและในห่วงโซ่อุปทานของเรา ด้วยตระหนักดีว่าความรับผิดชอบนี้เป็นการแสดงออกถึงความเป็นผู้นำ เราตอบสนองความต้องการของผู้มีส่วนได้เสียของเราด้วย SeaChange® ซึ่งเป็นกลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน โดยมีพันธกิจที่วัดผลได้ในการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในแนวทางการดำเนินงานของเรา โดย SeaChange® มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดขึ้นกับทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลโลก
ไทยยูเนี่ยนมีความภูมิใจที่ติดดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ในปี 2561 โดยในปีนี้เราได้เป็นอันดับที่ 1 ในหมวดอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร ซึ่ง SeaChange® กลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ได้ผลักดันให้บริษัทได้คะแนน 100 เปอร์เซ็นไทล์ ด้านความยั่งยืนรวม
บริษัทมอง SeaChange® เป็นแนวทางการดำเนินงานที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของธุรกิจอาหารทะเล โดยครอบคลุมตั้งแต่วิธีการดูแลท้องทะเลไปจนถึงวิธีการจัดการของเสีย รวมถึงความรับผิดชอบที่เรามีต่อพนักงานของเราไปจนถึงการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนที่อยู่รอบบริเวณโรงงานของบริษัท
หัวใจหลักของกลยุทธ์ความยั่งยืน คือ ความสามารถในการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของบริษัทได้อย่างเต็มรูปแบบ นั่นหมายถึง ตั้งแต่การจับไปจนถึงผลิตภัณฑ์พร้อมบริโภค เมื่อมีระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของอาหารอย่างเต็มรูปแบบแล้ว จะทำให้บริษัทสามารถระบุ ตรวจสอบ และปรับปรุง การดำเนินงานในเรื่องสำคัญ เช่น เรื่องแรงงาน และการจัดหาวัตถุดิบด้วยความรับผิดชอบ
เทคโนโลยี เป็นเครื่องมือสำคัญในการผลิตอาหารทะเลอย่างยั่งยืน ซึ่งในหลายภูมิภาคอาหารทะเลเป็นแหล่งโปรตีนที่หาได้ง่ายที่สุด ในหลายกรณีเทคโนโลยีที่นำมาใช้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เช่น การจัดหาอุปกรณ์สื่อสารให้เพียงพอสำหรับแรงงานที่อยู่บนเรือประมงสามารถติดต่อสื่อสารมายังภาคพื้นดินได้อย่างสม่ำเสมอ อย่างไรก็ดี การวิวัฒน์ของนวัตกรรม บล็อกเชนและสกุลเงินอิเล็กทรอนิกส์ คือ สองเทคโนโลยีความก้าวหน้าล่าสุดในปัจจุบันที่จะเป็นเครื่องมือในการจัดการเรื่องความหิวโหยและเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารทะเลตั้งอยู่บนหลักจริยธรรม
ไทยยูเนี่ยนกำลังทดลองใช้บล็อกเชนเพื่อใส่ข้อมูลพื้นฐานหลักที่เกี่ยวกับการจับและการผลิตตั้งแต่ฟาร์มไปจนถึงกระบวนการผลิต ข้อมูลมีความปลอดภัย ทุกคนสามารถ เห็นได้ ช่วยให้มีความโปร่งใสและตรวจสอบย้อนกลับได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังร่วมมือกับพันธมิตร โดยมุ่งเน้นการริเริ่มต่างๆ สำหรับแบ่งปันข้อมูลและให้แน่ใจว่ามีการรายงานที่ถูกต้อง เทคโนโลยีนี้จะช่วยในเรื่องข้อมูลของราคาตลาด และสร้างระบบการตรวจสอบย้อนกลับทั้งห่วงโซ่สำหรับการใช้จ่ายที่ถูกต้อง การรายงานอย่างโปร่งใส การให้การสนับสนุนโดยตรงเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานความยั่งยืน
ด้วยความประสงค์ที่จะจัดการเรื่องความหิวโหยและผลิตอาหารทะเลที่ตั้งอยู่บนหลักจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี หมายถึงเรามีเครื่องมือมากขึ้นที่จะจัดการเพื่อให้แน่ใจอาหารของเรามีการผลิตอย่างยั่งยืนและเรากำลังมุ่งมั่นทำงานเพื่อเก็บรักษาปริมาณปลาในท้องทะเลให้คงไว้สำหรับคนรุ่นต่อไป
การดำเนินงานนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเล ความสำเร็จต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากโครงการต่างๆ ของไทยยูเนี่ยนยังตอบโจทย์เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ และสอดคล้องกับพันธสัญญาของบริษัทในฐานะเป็นภาคีข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ การดำเนินงานทั้งหมดนี้สอดคล้องกับ SeaChange® ไทยยูเนี่ยนจะเน้นไปที่เป้าหมาย 3 ประการของเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ โดยมุ่งดำเนินการไปที่เป้าหมาย 3 ประการ ดังนี้
ไทยยูเนี่ยนเป็นสมาชิกข้อตกลงแห่งสหประชาชาติ และได้ปฏิบัติตามพันธสัญญาทั้ง 10 ประการ มาตั้งแต่ปี 2556 และในปี 2561 ไทยยูเนี่ยนได้ร่วมกับบริษัทสมาชิกต่างๆ ในการจัดตั้งสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย
Source: https://www.thaiunion.com/th/sustainability/sustainability-at-thai-union/overview